5 อันดับครีม ที่รีวิวว่าใช้แล้วขาว!!

ใครที่อยากมีผิวที่ขาวใส เนียนสวย แต่ก็กลัวว่ากว่าจะโบกครีมจนขาวคงกระเป๋าแบนซะก่อน ใครกำลังปวดตับกับปัญหานี้ ขอบอกเลยว่าเรามีตัวช่วยมาฝากอีกแล้วค่าาา #งานสวยประหยัดกลับมาแล้ว เพราะเราจะพาไปรู้จักกับครีมทาตัวถูกและดี ที่หาซื้อได้ง่ายๆ ในร้านสะดวกซื้อหรือซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ราคาไม่กระเทือนขนหน้าแข้ง อยากรู้ว่ามีอะไรน่าซื้อมาใช้ลองไปจดลิสต์กันด่วนๆ

1. เภสัช Body Whitening

เป็นครีมทาตัวที่ถูกสุดๆ แถมยังได้ผลดีซะด้วย มีให้เลือกด้วยกัน 3 สูตร คือ เภสัชสีน้ำเงิน (สูตรดั้งเดิม วิตามินบี 3, Double UV filter) เภสัชสีแดง (เพิ่มวิตามินอี) และเภสัชขวดชมพู (เพิ่มคอลลาเจน) ส่วนใหญ่ที่ลองใช้คอนเฟิร์มว่าขาวขึ้นจริงอะไรจริง และขาวขึ้นทุกสูตรไม่แตกต่างกัน ราคาประมาณ 50 บาท (250 ml.)

2. วาสลีน Healthy White Vitamin B3

อีกหนึ่งสูตรดังที่ใช้แล้วเห็นผลว่าขาวเนียนขึ้นจริง คงขาดตัวนี้ไปไม่ได้ ซึ่งสาวๆ เรียกกันติดปากว่า วาสลีนขวดชมพู หรือวาสลีน B3 เพราะมีส่วนผสมของวิตามินบี 3 ที่ช่วยให้ขาวขึ้นได้จริง ราคาประมาณ 200 บาท (400 ml.)

3. ซิตร้า ไวท์

ใช้ดีหลายตัวสำหรับครีทาตัวจากซิตร้า ซึ่งช่วยให้ผิวเนียนเรียบ และขาวขึ้นได้จริง รุ่นฮิตๆ ก็คือ Perly White, Ultimate White หรือเรียกง่ายๆ ว่า ซิตร้าขวดชมพู, ซิตร้าขวดส้ม ราคาประมาณ 160 บาท (400 ml.)

4. มิสทีน White Spa

นอกจากเครื่องสำอางจะโด่งดังแล้ว ครีมทาตัวจากมิสทีนก็โด่งดังไม่แพ้กัน เพราะราคาไม่แพงแต่ทาแล้วเห็นผลว่าผิวเนียนขาวขึ้น รุ่นฮิตก็คือ ไวท์สปาโกลด์ (สีทอง) ไวท์ สปา กลูต้า (สีชมพู) ราคาประมาณ 99 บาท (400 ml.)

5. นีเวีย UV Whitening

นีเวียขวดสีขาวส้มเป็นอีกตัวที่โด่งดังว่าทาแล้วผิวขาวเนียนขึ้นจริง นอกจากนี้ครีมทาตัวของนีเวียก็ยังมีรุ่นฮิตๆ ที่ใช้ดีอีกหลายรุ่น เช่น นีเวีย เอ็กซ์ตร้า ไวท์เทนนิ่ง, นีเวีย อินสแตนท์ไวท์ เป็นต้น ราคาประมาณ 150 บาท (250 ml.)

ก็จบการรีวิวแล้ว หนุ่มๆสาวๆ ก็ลองไปเลือกหามาใช้ดูกันนะค่ะ แล้วเจอกันใหม่ See yaa!!

10 ยาแต้มสิวอักเสบ ตัวเด็ดที่คนใช้กันมากที่สุด

เป็นสิวอักเสบ ก็ต้องหา "ยาแต้มสิว" มาทา เพื่อลดอาการบวมแดง ยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียบนผิวหน้า ถามว่าไม่ทาได้หรือเปล่า ตอบว่าได้!!! แต่สิวจะหายช้า หรืออาจลุกลามกลายเป็นสิวหนอง สิวหัวช้าง ซึ่งสิวลักษณะนี้เป็นต้นเหตุของการเกิดแผลเป็นจากสิว หรือหลุมสิว บอกได้คำเดียวว่า น่ากลัวมาก!!!

            วันนี้เรามีข้อมูล 10 ยาแต้มสิวอักเสบมาฝาก แต่ละตัวเป็นยาแต้มสิวที่คนเป็นสิวนิยมใช้ ซึ่งถ้าพูดชื่อไปทุกคนน่าจะรู้จัก หรือเคยผ่านหูผ่านตามาบ้าง มาเริ่มจากยาแต้มสิวอักเสบตัวแรกกันเล้ยยย

1. Clinda m

Clinda m คือ ยาทาแต้มสิวอักเสบยอดนิยม เวลานึกถึงยาแต้มสิวต้องมีชื่อนี้อยู่ในลิสต์รายชื่อเสมอ ตัวยาออกฤทธิ์ คือ Clindamycin มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นต้นเหตุการเกิดสิว เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นน้ำ ใช้ทาหลังล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ทาทิ้งไว้โดยไม่ต้องล้างออก โดยแต้มยาบริเวณหัวสิวที่อักเสบ ช่วยลดการอักเสบของสิวได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ใช้ลดการอุดตันของสิวไม่ได้ ไม่ควรทา Clinda m ต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพราะ Clinda m เป็นยาปฏิชีวนะ ทานานๆเชื้อสิวอาจดื้อยาได้ จึงนิยมทาคู่กับ ยา BP (Benzoyl peroxide) เพื่อป้องกันการดื้อยา

2. Clindalin gel

Clindalin gel คือ ยาแต้มสิวอักเสบอักเสบที่มีตัวยาเดียวกันกับ Clinda m คือ Clindamycin ดังนั้นสรรพคุณ การออกฤทธิ์ ผลข้างเคียง และวิธีใช้จึงเหมือนกัน แตกต่างกันตรงยี่ห้อ และเนื้อผลิตภัณฑ์ Clindalin gel เป็นเนื้อเจล แต่ Clinda m เป็นแบบน้ำ ส่วนตัวผมชอบใช้ Clindalin gel มากกว่า เพราะเวลาทารู้สึกว่าเนื้อเจลติดที่หัวสิวทนกว่าแบบน้ำ ช่วยให้ยาออกฤทธิ์ได้ยาวนานกว่า ราคาก็ใกล้เคียงกันประมาณ 50 กว่าบาท

3. Eryacne erythromycin 4%

Eryacne erythromycin 4% คือ ยาแต้มสิวที่มีสรรพคุณช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ด้วยตัวยา  erythromycin ช่วยลดการการอักเสบ ลดการติดเชื้อเป็นหนองของสิว ใช้ทาหลังล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง โดยแต้มตัวยาบริเวณหัวสิวที่อักเสบ ทาทิ้งไว้โดยไม่ต้องล้างออก Eryacne เป็นยาทาปฏิชีวนะ เหมือนกับ Clinda m และ Clindalin gel ดังนั้นไม่ควรใช้ติดต่อกันนาน เพราะอาจทำให้เชื้อสิวดื้อยาได้ สามารถทาร่วมกับ BP ได้เช่นกัน ใครใช้ Clinda m ไม่ได้ผลลองเปลี่ยนเป็น Eryacne ตัวนี้ได้ แต่ราคาจะแพงกว่า ขนาด 30g ราคา เกือบ 300 บาท ราคาสูงไปนิดนึง

4. Metronidazole robaz gel 0.75%

Metronidazole robaz gel 0.75% คือ ยาแต้มสิวตัวยา Metronidazole ซึ่งเป็นยาที่ใช้ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา ช่วยลดการอักเสบของสิวได้ดี และยังใช้รักษาโรคสิวหน้าแดง สิวจมูกโต หรือโรคโรซาเซียได้อีกด้วย ส่วนวิธีใช้ ใช้หมือนกับยาแต้มสิวทั่วไป ทาบริเวณที่เป็นสิว หรือแต้มหัวสิวที่อักเสบ ทาวันละ 2 ครั้ง เช้า-ก่อนนอน หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป หลอดละประมาณ 300 กว่าบาท

5. Cybele akneles

Cybele akneles เป็นยาแต้มสิวสูตรธรรมชาติ ที่เน้นสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากเปลือกมังคุด , Tree tree oil , ดอกคาโมไมล์ , สารสกัดจากว่านหางจระเข้ , ชะเอมเทศ , Vitamin B3 , สารสกัดจากนมผึ้ง โดยสารส่วนใหญ่ใช้ลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ยังใส่สารเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเข้ามา ช่วยลดรอยดำหลังจากสิวหายได้เป็นอย่างดี ข้อดีของยาแต้มสิว Cybele akneles ตัวนี้คือ ไม่ทำให้เชื้อสิวดื้อยา เพราะไม่ใช่ยาปฏิชีวนะ แต่เวลาทาอาจรู้สึกว่าสิวหายช้าหน่อย ไม่ต้องกังวล หายช้าดีกว่าไม่หายเลยจริงมั้ยล่ะ

  

6. Smooth e acne hydro gel

Smooth e acne hydrogel จัดเป็นครีมแต้มสิวยอดนิยมมากที่สุดตัวหนึ่ง ไม่แน่ใจว่านิยมเพราะการโฆษณา หรือว่าใช้ดีจริงๆกันแน่ เป็นครีมแต้มสิวที่มีส่วนผสมหลักคือ Salicylic acid สารที่ช่วยลดการอุดตันของผิว มีส่วนช่วยลดการเกิดสิวอุดตัน นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของ Rice bran หรือน้ำมันรำข้าว ช่วยป้องกันแสง UV ทำให้ผิวชุ่มชื้น boswellia serrata ช่วยลดการอักเสบ และ Oligopeptide-10 ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียต้นเหตุการเกิดสิว เนื้อผลิตภัณฑ์ของ Smooth e acne hydrogel เป็นเนื้อเจลขาวขุ่น ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีกลิ่นหอมอ่อน เป็นครีมแต้มสิวที่ช่วยลดการเกิดสิวอักเสบ สิวหนองเป็นหลัก ส่วนเรื่องสิวอุดตันช่วยได้เพียงเล็กน้อย

วิธีใช้ ใช้ทาหลังล้างหน้า วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น แต้มครีมแต้มสิวลงไปบริเวณหัวสิวที่อักเสบ หรือบริเวณที่สิวกำลังจะขึ้น มีขายตามร้านขายยา ห้างสรรพสินค้า และ 7-11 ขนาด 7 กรัม ราคา 180 บาท

7. Tomei anti acne cream

Tomei anti acne cream เป็นครีมแต้มสิวจากธรรมชาติอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจ ช่วยลดการอักเสบ บวม แดง ของสิว นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากต้นกระบองเพชร Nopal Extract ช่วยลดการอุดตันของสิวได้เล็กน้อย ส่วนวิธีใช้ เหมือนกับยาแต้มสิวทั่วไป แต้มครีมแต้มสิว Tomei บนหัวสิววันละ 2 ครั้ง เช้า-ก่อนนอน หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ขนาด 5 กรัม ราคา 170 บาท

8. ครีมแต้มสิวยันฮี Acne cream

เป็นครีมแต้มสิวของโรงพยาบาลยันฮีโดยตรง ช่วงหลังออกสินค้าวางขายตาม shop ในห้างหลายตัว Acne cream ก็เป็นหนึ่งในนั้น มีส่วนผสมของกรด salicylic ช่วยผลัดเซลผิว ลดการอุดตัน sulphur ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบของสิว ว่านหางจระเข้ ช่วยเพิ่มความชุ่นชื้น ลดการระคายเคืองของผิว โดยรวมแล้วเป็นครีมแต้มสิวที่น่าสนใจตัวหนึ่ง ราคาก็ไม่แพงมาก 10 กรัม 99 บาท หาซื้อได้ตาม shop ของยันฮีตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปเลยค่ะ

9. ครีมแต้มสิวภูมิพฤกษา 15

มาถึงครีมแต้มสิวแบรนด์ไทยที่น่าสนใจอีกตัว "ครีมแต้มสิวภูมิพฤกษา 15" ของ เป็นครีมแต้มสิวจากสารสกัดจากธรรมชาติ ผสมกับกรด salicylic  สรรพคุณของ ภูมิพฤกษา 15 นั้น ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ลดการอุดตัน ลดรอยดำเมื่อสิวยุบ คนเป็นสิวหลายคนบอกว่าใช้ดี ทาสิวอักเสบช่วยให้สิวแห้ง ยุบไวขึ้น ราคาก็ไม่แพง ขนาด 15 กรัม ราคา 79 บาทเท่านั้น หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านขายสมุนไพรทั่วไป

10. แป้งน้ำศิริราช Lotion p no.1

แป้งน้ำศิริราช คือ ยาทารักษาสิวอุดตันยอดนิยมของคนไทย โด่งดังมาจากห้องโต๊ะเครื่องแป้งของ Pantip มีส่วนผสมหลักอยู่ 3 ตัว คือ

·                     Resorcinol 1%  ช่วยลดการหนาตัวของผิว ลดการอุดตัน ช่วยผลัดผิวชั้นบน

·                     Salicylic Acid 1% หรือ BHA ช่วยผลัดผิว ละลายได้ดีในนำมัน ช่วยลดการเกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบ

·                     Zinc Oxide 6.7% ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด

วิธีใช้

ทาแป้งน้ำศิริราชบริเวณสิวอุดตัน และสิวอักเสบ หลังล้างหน้า วันละ 2 ครั้ง เช้า-ก่อนนอน ทาทิ้งไว้โดยไม่ต้องล้างออก

และทั้งหมดนี่ก็คือ 10 ยาแต้มสิวอักเสบตัวเด็ด ที่เราเอามาฝากทุกคนในวันนี้ ลองเลือกใช้ให้เหมาะกับสิวของตัวเอง บางตัวเป็นครีม บางตัวเป็นยา ถ้าไม่มั่นใจกลัวจะเลือกผิด ใช้แล้วสิวไม่หาย แนะนำให้ไปหาหมอผิวหนังเพื่อรักษาสิว หรือปรึกษาเภสัชกรก่อนซื้อจะดีที่สุด สิวอักเสบจะได้อพยพออกจากใบหน้าสวยๆหล่อๆของเราสักที!!!!

ไหนหุ่นใครพังตอนสงกรานต์ขอให้ยกมือขึ้น !!

     เชื่อว่าหลังสงกรานต์ ต้องมีคนจำนวนมาก หุ่นพัง ช่วงสงกรานต์ไม่ว่าจะเป็น กิน เที่ยว นอน โอ้ยย พูดแล้วปวดใจ เรามาทำภารกิจพิชิต หุ่นพังกันดีกว่า

 

ขั้นแรก เริ่มจากการควบคุมอาหารการกิน  คือของมัน ของทอด ของหวาน ถ้าไม่จำเป็น หรือถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง

วันจันทร์

มื้อเช้า ทานไก่ทอดแบบไม่มีหนังและไม่อมน้ำมัน 1 ชิ้น กับไข่ดาว 1 ฟอง
มื้อกลางวัน ไก่ย่าง (ไม่ทานหนัง) กับเกาเหลา
มื้อเย็น ทานสลัดผักกับกาแฟแนะนำให้ใส่ครีมเทียมได้เพียง 1 ช้อนชาและน้ำตาลไม่เกิน 1/2 ช้อนชา

วันอังคาร

มื้อเช้า ไส้กรอก 2 ชิ้นกับสลัดผัก
มื้อกลางวัน แกงจืดไก่ ผัดผักสามารถใส่เนื้อสัตว์แบบไม่เอามันได้
มื้อเย็น นัำพริกกะปิทานกับผักสด

วันพุธ

มื้อเช้า แกงจืดเลือดหมู
มื้อกลางวัน เกาเหลา
มื้อเย็น ยำปลากระป๋องทานกับผักสด และแกงจืดตำลึง

วันพฤหัสบดี

มื้อเช้า แฮม 1 ชื้นกับไข่ดาว 1 ฟอง
มื้อกลางวัน เนื้อสัตว์ตุ๋นทานกับถั่วฝักยาวหรือถั่วแขกต้ม
มื้อเย็น น้ำพริกแมลงภู่ทานกับแตงกวาและกะหล่ำปลี

วันศุกร์

มื้อเช้า ไข่เจียว 1 ฟองทานกับถั่วฝักยาวหรือถั่วแขกต้ม
มื้อกลางวัน น่องไก่ตุ๋น 2 น่องทานกับผักสด
มื้อเย็น เนื้อสัตว์ไร้มันผัดใบกระเพรา

วันเสาร์

มื้อเช้า แฮม 2 ชิ้น
มื้อกลางวัน เกาเหลากับส้มตำ
มื้อเย็น ชะอมชุบไข่ทอดแบบไม่อมน้ำมัน ปลาทูทอด 1 ตัวทานกันกับผักสด

วันอาทิตย์

มื้อเช้า ไก่ย่างไม่มีหนัง 1 ชิ้นกับผักสด
มื้อกลางวัน สลัดเนื้อสัน กับไก่ตุ๋น
มื้อเย็น ปลานึ่งทานกับต้มจืดตำลึง

 

ขั้นตอนไปคือ ออกกำลังกาย

โดยเริ่มจากง่าย อย่างการวิ่ง 30นาทีขึ้นไป หรือจะออกตามคลิปหรือจะออกเองง่ายๆก็ได้ เรามีท่าออกกำลังกายมาฝาก

เป็นไงล่ะ ไม่ยากเกินไปใช่มั้ยเอ่ยย? หวังว่าทุกคนคงทำตามกันได้ไม่ยากน๊าา

มาดูแลผิวหลังสงกรานต์กันเถอะ !!

หลังจากสาดน้ำกันมาอย่างหนักหน่วง แน่ล่ะว่าหลายคนคงต้องเจอกับปัญหาผิวเสีย หมองคล้ำ เกิดรอยไหม้ หรือเป็นรอยแดงจากแสงแดดที่ท้าสู้มาเกือบทั้งวัน และหลายวันติดกัน

การรักษาอาการผิวไหม้เสียจากแสงแดด เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และควรรีบทำการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะถ้าหากปล่อยเวลาให้ผ่านพ้นเลยไปนาน ปัญหาผิวเหล่านี้อาจจะเกิดการสะสมกันมากขึ้น จนกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่มากขึ้น อย่างเช่น การเกิดมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น

เพราะผิวสวยจะรอช้าไม่ได้ ต้องทำการฟื้นฟูทันที ตามสเตปดังนี้

1.การปรับอุณหภูมิผิวหลังโดนแดดเผานั้นสำคัญ ให้ใช้ผ้าขนหนูที่แช่เย็นหรือชุบน้ำเย็นประคบตรงบริเวณที่โดนแดดเผา เน้นเป็นจุดๆ ทั่วใบหน้า โดยเฉพาะทีโซนจะเป็นพื้นที่ที่โดนแสงแดดทำร้ายมากที่สุด การทำเช่นนี้เพื่อให้อุณหภูมิของผิวหนังบริเวณผิวหน้ากลับมาเป็นปกติ ค่อยๆทำซ้ำหลายๆครั้งจนรู้สึกว่าผิวเย็นหายแสบร้อน

2.เลี่ยงการถูด้วยสบู่ล้างหน้า แล้วหันมาให้เพียงน้ำสะอาดแทน เพื่อเป็นการลดการระคายเคืองผิวหน้า ควรเลี่ยงการใช้มือสัมผัส

3.จนกว่ารอยไหม้จากแดดจะดีขึ้น ลดการใช้เครื่องสำอางต่างๆไว้ก่อน เพราะเครื่องสำอางอาจจะยิ่งซ้ำเติมรอยแผลและการฟื้นฟูผิวได้ ฉะนั้นควรอดใจไว้ก่อน

4.เมื่อรอยไหม้จากแดดดีขึ้นแล้ว เร่งเติมน้ำให้กับผิว หลังจากโดนแดดเผา ปริมาณน้ำใต้ผิวจะลดลงอย่างมาก พอสภาพรอยไหม้เริ่มดีขึ้นระดับหนึ่ง ก็ถึงเวลาที่ต้องเติมน้ำให้กับผิวอย่างเร่งด่วน ลงโทนเนอร์และมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวให้มากกว่าปกติเป็น 2 เท่า

5.ขณะที่ผิวกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ให้บำรุงผิวเพิ่มเติม ด้วยโลชั่นหรือเซรั่ม ที่มีความสามารถในการปกป้อง ความชุ่มชื่นในผิวสูง โดยเฉพาะสารบำรุงที่มีส่วนผสมในการช่วยยับยั้งการขยายตัวของเม็ดสีเมลานิน อย่างเช่นส่วนผสมของ Vitamin C หรือว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจำพวก Whitening ก็จะช่วยปกป้องการเกิดฝ้าและกระให้กับผิวได้ดีขึ้น

วิธีที่กล่าวมาลองนำไปทำดูกันนะคะ แล้วได้ผลยังไงมาบอกด้วย

ส่วนไอเท็มเด็ดที่ช่วยฟื้นฟูผิวจากแดด แนะนำให้เป็นเจลว่างหางจระเข้เลยค่ะ  ถ้าสนใจตามดูได้ในบล็อกเลยนะคะ

http://chonticha1996.blogspot.com/2017/03/review-5.html